͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ลบฝันร้าย! ไทม์ไลน์ของ "เฟร็ด" จากบราซิลเซินเจิ้นสู่ตัวหลักแมนยู  (อ่าน 465 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16453
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ถ้าหากใครบอกก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ว่า "เฟร็ด" จะเป็นแข้งตัวหลักคนสำคัญของ "ปีศาจแดง" คงไม่มีใครเชื่อ... ทว่าเขาใช้ฝันร้ายจากฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกมาเป็นแรงผลักดันให้โชว์ฟอร์มสุดยอดในฤดูกาลนี้ จากที่เคยโดนดูถูกว่าเป็น "บราซิลเซินเจิ้น" ตอนนี้เสียงวิจารณ์เหล่านั้นได้หายไปแล้ว เรามาดูไทม์ไลน์ความยอดเยี่ยมของ เฟร็ด ในฤดูกาลนี้กันอีกรอบ
    "เฟร็ด" เคยเป็นหนึ่งในแข้งที่ถูกตราหน้าว่าเป็นการใช้เงินเสริมทัพที่สูญเปล่าเนื่องจากฤดูกาลแรกกับปีศาจแดงนั้นย่ำแย่เสียเหลือเกิน เขาย้ายจาก ชัคตาร์ โดเนตส์ มาร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวถึง 52 ล้านปอนด์ในช่วงตลาดซัมเมอร์ปี 2018 ซึ่งตอนนั้น โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังกุมบังเหียนผีแดงเป็นปีที่สาม

    เขาไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่แฟนผีคาดหวังหลังลงเล่นในทุกรายการ 25 นัด ซัดแค่ประตูเดียวกับอีกหนึ่งแอสซิสต์ แถมฟอร์มการเล่นในสนามน่าเป็นห่วงเสียเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นการจับบอล การส่งบอล เกิดข้อผิดพลาดไปหมดจนบรรดากูรูและแฟนบอลหลายคนตำหนิอย่างหนัก


ลบฝันร้าย! ไทม์ไลน์ของ "เฟร็ด" จากบราซิลเซินเจิ้นสู่ตัวหลักแมนยู
    ในยุคของ มูรินโญ่ นั้น เฟร็ด มีโอกาสได้ลงสนามในลีกเพียงแค่ 8 จาก 17 เกม แม้ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะเข้ามาคุมทัพต่อชั่วคราวและสามารถปลุกนักเตะคนอื่นให้กลับมาฟอร์มเยี่ยมอีกครั้งแต่สำหรับ กองกลางชาวบราซิลเลี่ยน ก็ยังเค้นฟอร์มเก่งไม่ได้เช่นเคย จนกระทั่งเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้างในเกมที่บุกชนะ เปแอสเช จนเข้ารอบ ชปล. 8 ทีมสุดท้ายอย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งวันนั้นเขาลงเล่นเต็มเกม 90 นาทีและมีส่วนช่วยเกมรับมากมาย

    อย่างไรก็ตามฟอร์มของเขาก็ไม่ได้คงเส้นคงวามากนักรวมถึงเพื่อนร่วมทีมคนอื่นด้วยจนมีส่วนทำให้ในช่วงท้ายฤดูกาล 2018/19 แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานไม่เอาอ่าว แพ้ 5 จาก 9 นัดในลีก (พ่าย 4 จาก 5 นัดในเกมที่ เฟร็ด ลงเล่น) ที่สำคัญเลยคือนัดที่โดน เอฟเวอร์ตัน ยับเยิน 4-0 ซึ่งเกมนั้น เฟร็ด ฟอร์มแย่จนถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง

ลบฝันร้าย! ไทม์ไลน์ของ "เฟร็ด" จากบราซิลเซินเจิ้นสู่ตัวหลักแมนยู
    เมื่อจบฤดูกาลก็มีข่าวลือหนาหูว่า เฟร็ด อาจจะย้ายออกจากทีมแต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ขออยู่สู้เพื่อตำแหน่งตัวจริงต่อไป และเมื่อเริ่มฤดูกาล 2019/20 เขาพลาดลงเล่นในลีก 4 เกมแรกก่อน โซลชา จะเริ่มให้โอกาสมากขึ้นแต่เป็นในฐานะตัวสำรอง

    จนเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บของ ปอล ป็อกบา ทำให้เกมพบ นิวคาสเซิ่ล เมื่อเดือนตุลาคม เฟร็ด ได้ลงเล่นตัวจริงในลีกเป็นเกมแรกของซีซั่น (ก่อนหน้านี้ลงเล่นตัวจริงใน ยูโรปา ลีก เสมอ อัลคม่าร์ 0-0) ทว่าเขาโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังอีกครั้งจนทีมพ่ายแพ้ต่อ สาลิกาดง 1-0

    หลังเกมนั้นบรรดาสื่อก็ขุดคุ้ยสถิติของเจ้าตัวว่า หนสุดท้ายที่ เฟร็ด แทงบอลทะลุช่องให้เพื่อนร่วมทีมสำเร็จนั้น คือเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ บาร์เซโลน่า 0-1 โดยตอนนั้นเขาผ่านบอลทะลุช่องไปถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด นั่นทำให้ไม่แปลกใจที่แฟนผีแดงจะเริ่มหมดความอดทนกับ เฟร็ด แล้ว

ลบฝันร้าย! ไทม์ไลน์ของ "เฟร็ด" จากบราซิลเซินเจิ้นสู่ตัวหลักแมนยู
    อย่างไรก็ตามแม้จะถูกวิจารณ์อย่างหนักแต่ โซลชา ยังคงเชื่อมั่นในมิดฟิลด์รายนี้ต่อไปและให้ลงเล่นเกมถัดมาซึ่งเป็นศึกแดงเดือด โดยเกมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของฟอร์มที่ดีในฤดูกาลนี้ก็ว่าได้ เจ้าตัวมีส่วนช่วยทำให้ทีมเสมอกับจ่าฝูงลิเวอร์พูล โดยสถิติหลังเกมเขาแย่งบอลได้ 4 ครั้ง จ่ายบอลแม่นยำถึง 91% แท็กเกิ้ลอีก 2 ครั้ง

    นับตั้งแต่พลาด 4 เกมแรกเขาก็ลงเล่นทุกเกมในลีก พลาดแค่ 11 นาทีใน 22 เกมหลังสุด และหากนับทุกรายการมีเพียงแฮร์รี่ แม็กไกวร์เท่านั้นที่ลงเล่นมากกว่าเขา การลงเล่นอย่างสม่ำเสมอนี้เองทำให้เขาจับจังหวะของเกมได้และทำผลงานได้ดี เฟร็ด เผยว่า โซลชา แนะนำให้เขาทำ 3 สิ่งสำคัญคือ มีสมาธิ, เล่นให้ดี และลดข้อผิดพลาดให้น้อยลงโดยเฉพาะเรื่องการผ่านบอลซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเขาในเกม

ลบฝันร้าย! ไทม์ไลน์ของ "เฟร็ด" จากบราซิลเซินเจิ้นสู่ตัวหลักแมนยู
    แม้เปิดปีใหม่ทัพ "เร้ด เดวิล" จะพ่ายแพ้ 3 จาก 4 เกมในลีกแต่ เฟร็ด ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรในเดือนมกราคมจากการโชว์ผลงานน่าประทับใจในเกมถล่ม นอริช ซิตี้ 4-0 ซึ่งเป็นการลงเล่นเกมที่ 50 ในทัพปีศาจแดง และยังรวมถึงเกมพ่าย ลิเวอร์พูล ที่เขาเป็นเป็นกำลังสำคัญที่่ช่วยให้ทีมดีขึ้นในครึ่งหลัง

    และเมื่อมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส เข้ามาเสริมทัพนั่นทำให้ผลงานโดยรวมของทีมกลับมาดีขึ้นและยังทำให้ เฟร็ด ดูโดดเด่นขึ้นไปอีก แฟร์นันด์ส สามารถเล่นเกมรุกได้อย่างอิสระเนื่องจากความรับผิดชอบในเกมรับของ เฟร็ด อย่างในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เขาเป็นคนวิ่งไล่กดดันจนคู่แข่งจ่ายบอลพลาดและ แฟร์นันด์ส์ ก็ฉวยโอกาสยิงไกลเข้าประตูไป

     เฟร็ด ยังทำผลงานได้ดีทั้งในเกมกับ คลับ บรูช ที่เขาเหมา 2 ประตูและ 1 แอสซิสต์ รวมถึงในเกมถล่ม แอลเอเอสเค ลินซ์ ที่เขาแอสซิสต์อีกสองประตูทำให้นับตั้งแต่ บรูโน่ เข้ามาในทีม เฟร็ด ก็มีส่วนร่วมกับประตูถึง 5 ลูกจาก 9 เกม (2 ประตู 3 แอสซิสต์) ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 55 นัดเขามีส่วนประตูแค่ 3 ลูกเท่านั้น ถือเป็นคู่หูในแดนกลางที่ลงตัวเป็นอย่างมาก

ลบฝันร้าย! ไทม์ไลน์ของ "เฟร็ด" จากบราซิลเซินเจิ้นสู่ตัวหลักแมนยู
    น่าเสียดายที่การแข่งขันต้องหยุดลงเนื่องจากไวรัสโควิด-19ระบาด ทำให้ฟอร์มในสนามของเฟร็ดก็ต้องหยุดชะงักลงไปด้วย แต่พัฒนาการของเขาในฤดูกาลนี้เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในนักเตะปีศาจแดงไม่กี่คนที่ฟอร์มเสมอต้นเสมอปลาย

    ไม่ต้องมีข้อสงสัยเลยหากเขาจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมของแมนฯ ยูไนเต็ดประจำเดือนมีนาคม และรวมถึงนักเตะยอดเยี่ยมของทัพ "ปีศาจแดง" ประจำฤดูกาลนี้อีกด้วย