kidsaraburi.com # The name of your forum.
หมวดหมู่ทั่วไป => ตลาดทั่วประเทศ => ข้อความที่เริ่มโดย: Hanako5 ที่ 25 2022-01-25 2022 14:%i:1643097475
-
นิปปอน สตีล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น (https://www.saraburitoday.com/sentiment-%e0%b8%a5%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a8/) และรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะทำการซื้อหุ้นในบริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ G Steel รวมทั้งบริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ G J Steel ด้วยวงเงิน 763 ล้านดอลลาร์ หรือราว 25,000 ล้านบาท เพื่อลดการพึ่งพาถ่านหินในการผลิตเหล็ก และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
'เรามีวัตถุประสงค์ในการเข้าลงทุนในโรงงานผลิตเหล็กในประเทศไทยเพื่อรองรับความต้องการเหล็กแผ่นรีดร้อนในตลาด' นายทากาฮิโร โมริ รองประธานบริหารของนิปปอน สตีลกล่าวในการแถลงข่าว
ทั้งนี้ นิปปอน สตีลจะซื้อหุ้น 49.99% ของ G Steel และหุ้น 40.45% ของ G J Steel ด้วยวงเงิน 419 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งหนี้สินของบริษัท จากกองทุนที่บริหารโดย Ares SSG และหลังจากนั้น นิปปอน สตีลจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) เพื่อซื้อหุ้นที่เหลือของ G Steel และ G J Steel ด้วยวงเงิน 344 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ยอดเงินรวมในการซื้อกิจการ G Steel และ G J Steel อยู่ที่ 763 ล้านดอลลาร์ โดยราคาเทนเดอร์ ออฟเฟอร์สำหรับหุ้น G Steel และ G J Steel อยู่ที่ระดับ 0.27 บาท และ 0.59 บาทตามลำดับ
การซื้อกิจการของ G Steel และ G J Steel จะทำให้นิปปอน สตีลมีกำลังการผลิตเหล็กเพิ่มขึ้นเป็น 69 ล้านตัน