͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ตับมีปัญหา เป็นเพราะอะไร ? รักษาได้เช่นไร ?  (อ่าน 13 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14271
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ตับมีปัญหา จำต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เพราะเหตุว่าแม้ปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และก็มะเร็งตับได้เช่นกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อเสียง กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าหากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้เช่นไรว่าตับกำลังมีปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และก็ควรดูแลบำรุงเช่นไร..? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บสินค้า (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) แล้วก็ยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นส่วนประกอบของเลือด อย่างเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและเกลือแร่ไว้ภายในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน รวมทั้งถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินแล้วก็เกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง อาหารรวมทั้งยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในแบบปัสสาวะ หรือถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบเจอกับปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่มีต้นเหตุเนื่องมาจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด แต่หลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการกระทำทำร้ายตับยกตัวอย่างเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนมืดค่ำ ตื่นสาย
5.รับประทานยาหรืออาหารเสริมมากจนเกินความจำเป็น
6.ขาดการออกกำลังกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารยามเช้า
9.ชอบทานอาหารครึ่งดิบครึ่งสุก
10.ทำงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเซ็กส์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันซึ่งเราบางทีอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ตัวอย่างเช่น มีลักษณะเหน็ดเหนื่อยง่าย หมดแรง , มีปัญหาในการนอนหลับ , อาการท้องอืดเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการอาหารลดน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯหากคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่เอาใจใส่กลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยทางด้านทฤษฎีถ้าเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเฉยเมยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ ด้วยเหตุว่าแม้ตับอักเสบบ่อยๆจนกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ๋ยถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดเป็น การใส่ใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
(1) ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดปริมาณไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงของหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นรวมทั้งรสชาติแทนน้ำตาลและก็ผงชูรส
รับประทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงสำหรับในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ (หรือขั้นต่ำ 60 นาที/อาทิตย์)
ระหว่างที่ทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) หลีกเลี่ยงการรับสิ่งเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้น้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นถ้าหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้าเกิดมีความคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำได้ยาก ลองมาดูเคล็ดลับน่ารู้ ที่สามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่ารู้ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" ของกินที่เรารับเข้าไปในทุกวันก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้แก่ตับได้เช่นกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. แล้วก็นี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามท้องตลาดทั่วไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แต่ว่าเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยคุณประโยชน์ที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับในการลดไขมันในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่เคยรู้คนอีกหลายๆคน แต่มันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกและกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมทั้งสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีสุขภาพดี ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นดีเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย ทั้งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดวันยังช่วยดีท็อกซ์ล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่ทันรู้ตัว เมื่อจะต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นเรื่องจำเป็นที่สามารถปกป้องและลดความเสี่ยงสำหรับในการเป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่เอาชีวิตคนประเทศไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยแม้สงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการปรึกษาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ขอรับคำปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage แล้วก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ที่มีความเชี่ยวชาญแล้วก็เภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในตลอดเวลา