͸Ժ

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Ailie662

หน้า: 1 ... 608 609 [610] 611 612 ... 952
9136
บริษัท ซีเอ็นพีซีเอชเค (ไทยแลนด์) จำกัด คว้าสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมบนบก แปลง L1/64 เดินหน้าเพิ่มศักยภาพแหล่งปิโตรเลียม เสริมความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้สัมปทานปิโตรเลียม แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L1/64 แก่บริษัท ซีเอ็นพีซีเอชเค (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 1 แปลง พื้นที่รวม 78.90 ตารางกิโลเมตร ในเขตจังหวัดสุโขทัย และกำแพงเพชร ซึ่งการได้ผู้รับสิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยในการสร้างความต่อเนื่องในการจัดหาปิโตรเลียมภายในประเทศได้ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวจะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้วันละประมาณ 300-400 บาร์เรลต่อวัน และสามารถทดแทนมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบได้ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี



“กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้พิจารณาคำขอสิทธิสำหรับแปลงสำรวจปิโตรเลียมดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ จากข้อเสนอทางด้านเทคนิคและผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพเกิดการสร้างงาน การสร้างรายได้แก่ท้องถิ่น รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยในช่วง 3 ปีแรกของการสำรวจจะมีการลงทุนขั้นต่ำภายในประเทศ และผลประโยชน์พิเศษที่รัฐจะได้รับ รวมประมาณ 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 130 ล้านบาท และหากสามารถพัฒนาแหล่งและผลิตปิโตรเลียม ในแปลงสำรวจปิโตรเลียมดังกล่าวได้ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่รัฐในรูปแบบของค่าภาคหลวงและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมด้วย”

9137
โควิดสะเทือนเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการหั่นราคาบ้าน-คอนโดฯ อัดโปรโมชั่นอยู่ฟรี 2 ปี แถมฟรีเฟอร์นิเจอร์ ฉุดดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ กรุงเทพฯ - ปริมณฑล ไตรมาส 3 ร่วงลง 0.7%

10 ต.ค.2564 - ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2564  พบว่า ค่าดัชนีเท่ากับ 127.2 ลดลงร้อยละ -0.7 ซึ่งเป็นการลดลงของบ้านจัดสรรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สามแล้ว 


โควิดกระทบราคาบ้าน

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่ลดลงข้างต้น แสดงให้เห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 4 ที่มีความรุนแรงมากขึ้นในไตรมาสนี้ เห็นได้ชัดจากตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ประมาณ 15,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมในไตรมาส 2 ปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 2,500 คนต่อวัน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวช้า มีการล๊อคดาวน์ในบางพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่เป็นพื้นที่ตลาดที่อยู่อาศัยหลักของประเทศ เห็นได้ชัดว่าผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก  

 

" พบว่า ผู้ประกอบการยังคงใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการลดราคาเพื่อกระตุ้นการขายบ้านจัดสรร ควบคู่กับการเริ่มมีโปรโมชั่นการให้เข้าอยู่ฟรี 1 – 2 ปีแรก หรือ การปรับเป็นส่วนลดเงินสดในวันโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อเป็นการเร่งรัดในการตัดสินใจซื้อ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุทำให้ราคาบ้านจัดสรรใหม่ลดลง โดยเฉพาะในโซน ลำลูกกา-คลองหลวง-ธัญบุรี-หนองเสือ และโซนคลองสามวา-มีนบุรี-หนองจอก-ลาดกระบัง ที่ยังคงมีหน่วยเหลือขายอยู่มากจากรอบการสำรวจที่อยู่อาศัยในครึ่งแรกของปี 2564 ดังนั้นผู้ประกอบการจึงใช้กลยุทธ์การลดราคาเพื่อกระตุ้นการขายบ้านจัดสรร และระบายสินค้าใน 2 โซนดังกล่าว"


นาทีทอง!ผู้บริโภค ราคาบ้าน-คอนโดฯ ลดลง โปรโมชั่นอยู่ฟรี ฉุดดัชนี
นาทีทอง!ผู้บริโภค ราคาบ้าน-คอนโดฯ ลดลง โปรโมชั่นอยู่ฟรี ฉุดดัชนี

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรลดลง

เมื่อแบ่งแยกดัชนีราคาบ้านจัดสรรตามพื้นที่ พบว่า

กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.2 ลดลงร้อยละ -0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ลดลงร้อยละ -0.4
3 จังหวัดปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.1 ลดลงร้อยละ -0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ลดลงร้อยละ -0.5 
 

แยกประเภท

ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวลดลงร้อยละ -0.7 
ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ลดลงร้อยละ -0.7 
 

โปรโมชั่นส่งเสริมการขายฉุดราคาบ้าน 

สำหรับรายการส่งเสริมการขายบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 37.7 เป็นของแถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ ฯลฯ รองลงมาร้อยละ 35.9 เป็นส่วนลดเงินสด และร้อยละ 26.4 เป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์และ/หรือฟรีค่าส่วนกลาง (รายการส่งเสริมการขายในไตรมาส 2 ปี 2564 การลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์และ/หรือฟรีค่าส่วนกลางมากสุดร้อยละ 40.8 รองลงมาคือ การให้ของแถมร้อยละ 32.4 และการให้เป็นส่วนลดเงินสดร้อยละ 26.8

นาทีทอง!ผู้บริโภค ราคาบ้าน-คอนโดฯ ลดลง โปรโมชั่นอยู่ฟรี ฉุดดัชนี
นาทีทอง!ผู้บริโภค ราคาบ้าน-คอนโดฯ ลดลง โปรโมชั่นอยู่ฟรี ฉุดดัชนี

 

ดัชนีราคาคอนโดฯลดลง 0.9%

ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2564 พบว่า    ค่าดัชนีเท่ากับ 151.7 จุด ลดลงร้อยละ -0.9 

 

" จากดัชนีราคาห้องชุดใหม่ ได้แสดงให้เห็นว่า ราคาห้องชุดใหม่ยังมีทิศทางที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในระลอกที่ 4 ของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวและส่งผลกระทบต่อรายได้และการจ้างงาน มีการล๊อคดาวน์ในบางพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่เป็นพื้นที่หลักสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยของประเทศ ทำให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนลดลง และยังมีข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศของคนต่างชาติซึ่งถือว่าเป็นกำลังซื้อที่สำคัญของตลาดห้องชุดในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ที่ต้องหดตัวลงในภาวะสถานการณ์ที่ไม่ปกติในปัจจุบันนี้ "


" จากการสำรวจราคาห้องชุดใหม่ในไตรมาสนี้ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการนำเสนอโปรโมชั่นในรูปแบบของแถมมากถึงร้อยละ 64.1 ของโครงการสำรวจ โดยเป็นการให้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องชุดแบบพร้อมเข้าอยู่อาศัยให้ผู้ซื้อเพื่อเป็นการเร่งรัดการตัดสินใจซื้อ หรือ การให้ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์เพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อ หรือ การให้ส่วนลดเงิน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาห้องชุดใหม่ลดลง "

 

นาทีทอง!ผู้บริโภค ราคาบ้าน-คอนโดฯ ลดลง โปรโมชั่นอยู่ฟรี ฉุดดัชนี

แยกตามพื้นที่ 

กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 153.3 จุด ลดลงร้อยละ -0.9 
2 จังหวัดปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 144.0 จุด ลดลงร้อยละ -0.8 

สำหรับ ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2564 พบว่า       ค่าดัชนีเท่ากับ 151.7 จุด ลดลงร้อยละ -0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งมีค่าดัชนีลดลงต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 4 สำหรับการเปลี่ยนแปลงของดัชนีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) พบว่า ในไตรมาสนี้ลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ที่ร้อยละ -0.2 


ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในไตรมาส 3 ปี 2564

กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 153.3 จุด ลดลงร้อยละ -0.9 
2 จังหวัดปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 144.0 จุด ลดลงร้อยละ -0.8 

9139

ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างมาก หลังจากที่ล่าสุดพวกเขาออกมาบอกเองว่า ราฟาแอล วาราน ปราการหลังชาวฝรั่งเศสจะต้องอดลงเล่นให้ทีมไปพักหนึ่งจากการที่ได้รับบาดเจ็บด้านกล้ามเนื้อตรงขาหนีบในตอนที่ไปเล่นกับทีมชาติฝรั่งเศส
    แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้คำว่า "Few weeks" กับจำนวนเวลาที่ วาราน ต้องพักรักษาตัว ซึ่งมันหมายความว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขาต้องพักนานแค่ไหน แต่เป็นที่เชื่อกันว่าราวๆ แล้วน่าจะอยู่ที่ 2-3 สัปดาห์ ปัญหาคือช่วงเวลาที่ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เจอกับโปรแกรมหินมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมลีกกับ เลสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมถึงเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องดวลกับ อตาลันต้า อีก

    ทั้งนี้ ผลงานส่วนตัวของ วาราน ถือว่าโดดเด่นพอตัวแม้ว่าจะเพิ่งมาอยู่กับทีมและถึงแม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเสียประตูมาติดต่อกันหลายนัดแล้วก็ตาม ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่าที่ผ่านมา วาราน มีความสำคัญกับด้านต่างๆ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มากแค่ไหน

    - ลูกกลางอากาศ
    ด้วยส่วนสูงระดับ 191 เซนติเมตร ทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ วาราน จะรับมือกับลูกกลางอากาศได้อย่างโดดเด่น อย่างฤดูกาลก่อนเขาก็มีค่าเฉลี่ยการชนะในจังหวะดวลกลางอากาศมากถึง 2.4 หนต่อนัดกับการเล่นใน ลา ลีกา ให้กับ เรอัล มาดริด มาแล้ว

 

ADVERTISEMENT


แมนยู เสียหายหนัก! เจาะความสำคัญของ วาราน กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
 

    ทั้งนี้ ถึงแม้จะเพิ่งเจอกับเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งเน้นลูกกลางอากาศมากกว่า ลา ลีกา เป็นซีซั่นแรก แต่ตลอดการลงเล่นในลีก 5 นัดที่ผ่านมาของเขานั้น วาราน ก็มีค่าเฉลี่ยการชนะจังหวะดวลลูกกลางอากาศถึง 2.4 ครั้งต่อเกมเลยทีเดียว ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยด้านนี้ดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยอันดับ 2 คือ ปอล ป็อกบา ที่ทำไป 2.1 ครั้งต่อนัด ขณะที่หากเทียบกับแนวรับด้วยกันแล้วล่ะก็ เขาก็มีผลงานด้านนี้เหนือกว่า ลินเดอเลิฟ (2 ครั้งต่อเกม จากการลงเล่น 4 นัด) หรือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (1.8 หนต่อนัด จากการลงเล่น 6 เกม) ด้วย

    - การเข้าสกัด
    1.6 หนต่อนัด คือค่าเฉลี่ยการสกัดโดน.ในลีกของ วาราน ตลอดช่วง 5 นัดที่ผ่านมา ทำให้เขาถือเป็นนักเตะที่มีผลงานด้านนี้ดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด หากนับรวมแบบทุกตำแหน่ง เป็นรองเพียง เฟร็ด ที่ทำได้ 2.5 ครั้งต่อเกม กับ อารอน วาน-บิสซาก้า ซึ่งทำได้ 2 หนต่อนัดเท่านั้น

ADVERTISEMENT


 

แมนยู เสียหายหนัก! เจาะความสำคัญของ วาราน กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
 

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ วาราน ทำได้เหนือกว่า 2 คนนั้นก็คือเขาเสียฟาวล์น้อยด้วย เพราะเขาเสียฟาวล์ไปแค่ 0.2 หนต่อเกมเท่านั้น ขณะที่ เฟร็ด กับ วาน-บิสซาก้า มีตัวเลขด้านนี้อยู่ที่ 1 ครั้งต่อเกม กับ 0.6 หนต่อนัด ตามลำดับ ซึ่งในบรรดาแนวรับของทีมนั้นเขาก็ถือเป็นคนที่เสียฟาวล์น้อยที่สุดด้วย

    - การผ่าน.
    จนถึงตอนนี้ วาราน ถือเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์ (หมายถึงนับรวมทุกตำแหน่งนอกจากผู้รักษาประตู) ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีเปอร์เซ็นต์การผ่าน.เข้าเป้ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทีม หากนับเฉพาะคนที่ลงเล่นในลีกอย่างน้อย 5 เกม หลังจากที่เขาผ่าน.เข้าเป้ามากถึง 87.8 เปอร์เซ็นต์ โดยคนที่ทำได้ดีกว่าเขาคือ ลุค ชอว์ (88.7 เปอร์เซ็นต์) กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (88.6 เปอร์เซ็นต์)

 

แมนยู เสียหายหนัก! เจาะความสำคัญของ วาราน กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
 

    - การเคลียร์และบล็อก
    กองหลังที่ดีควรจะต้องเคลียร์.ให้เด็ดขาดเพื่อที่จะได้ไม่เสี่ยงทำให้ทีมโดนคู่แข่งบุกใส่ต่อ ซึ่งจนถึงตอนนี้ วาราน ทำได้ดีมากๆ ในด้านดังกล่าว จากการที่เขามีค่าเฉลี่ยด้านนี้อยู่ที่ 3.6 ครั้งต่อเกมด้วยกัน โดยในขุมกำลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ มีแค่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ทำได้ดีกว่าเขา จากการที่ แม็กไกวร์ ทำไป 4.2 หนต่อเกม

 

แมนยู เสียหายหนัก! เจาะความสำคัญของ วาราน กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
 

    นอกจากนี้ วาราน ยังถือเป็นนักเตะที่คอยบล็อกจังหวะต่างๆ ของคู่แข่งได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทีมในตอนนี้ด้วย ที่จำนวน 11 ครั้ง โดยแบ่งเป็นการขวางลูกยิงได้ 4 หน และขวางการผ่าน.ของคู่แข่งได้ 7 ครั้ง ซึ่งคนที่ทำได้เหนือกว่าเขาคือ วาน-บิสซาก้า ที่ทำไป 16 หน

9140
วิจัยกรุงศรีฯชี้ อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ระดับที่เอื้อต่อการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง ส่งซิกเริ่มเห็นความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นธุรกิจขยับขึ้น แต่การฟื้นตัวยังมีความไม่แน่นอนอยู่

        วิจัยกรุงศรีระบุว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนกลับมาขยายตัวหลังสิ้นสุดมาตรการลดภาระค่าครองชีพ อยู่ที่ 1.68% YoY สูงสุดในรอบ 4 เดือน และเป็นการกลับมาขยายตัวอีกครั้งจาก -0.02% เดือนสิงหาคม

     โดยมีปัจจัยสำคัญจากการสิ้นสุดลงของ มาตรการช่วยเหลือค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา)

     กอปรกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (+32.4%) และการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสดบางชนิด

     เช่น ไข่ไก่ ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) อยู่ที่ 0.19% จาก 0.07% เดือนสิงหาคม สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 0.83% และ 0.23% ตามลำดับ

     ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เงินเฟ้อยังคงได้แรงหนุนจาก (i) แนวโน้มราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับสูงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

     (ii) กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มกลับมาดำเนินการได้ตามลำดับภายหลังการระบาดบรรเทาลงและการผ่อนคลายมาตรการควบคุม

      (iii) การอ่อนค่าของเงินบาท นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วมอาจกระทบต่อต้นทุนสินค้าบางรายการได้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางการมีมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30บาท/ลิตร เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและต้นทุนของผู้ประกอบการ

     ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อัตราเงินเฟ้อจึงมีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งเอื้อต่อการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหรือคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

      ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นธุรกิจขยับขึ้น แต่การฟื้นตัวยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ในเดือนกันยายน ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การระบาดที่บรรเทาลง การทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมและการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้าอย่างมาก ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สู่ระดับ 41.4 จาก 39.6 ในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

      โดยเป็นการปรับขึ้นในทุกองค์ประกอบ ด้านดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน สู่ระดับ 42.6 จาก 40.0 เดือนสิงหาคม จากการปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบ

     ยกเว้นด้านต้นทุนที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและเหล็กที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับขึ้นเหนือระดับ 50 (ขยายตัว) เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ที่ 50.7 จาก 46.8


      แม้มีสัญญาณเชิงบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่เริ่มปรับขึ้น แต่ยังนับว่าอยู่ในระดับต่ำค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตการระบาด

        ขณะที่เศรษฐกิจในระยะข้างหน้ายังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยังมีความไม่สม่ำเสมอ ท่ามกลางบาดแผลทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงและยาวนานกว่าคาด

      ซึ่งส่งผลต่อภาคท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ การจ้างงาน รายได้ และภาระหนี้ของภาคครัวเรือน นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วม และปัญหาทางการเมืองในประเทศยังเป็นประเด็นที่มีความไม่แน่นอนสูงและอาจกดดันความเชื่อมั่นเป็นระยะๆ

     อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการรัฐที่จะช่วยหนุนการฟื้นตัว ล่าสุดทางการออกมาตรการรักษาระดับการจ้างงานให้แก่ธุรกิจ SMEs วงเงินราว 47 พันล้านบาท

      โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนให้กับนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคมจำนวน 3,000 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3เดือน (พฤศจิกายน 2564 – มกราคม 2565) ทางการคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยรักษาระดับการจ้างงานธุรกิจ SMEs ที่มีลูกจ้างไม่เกิน200 คน จํานวนกว่า 4 แสนแห่ง และรักษาการจ้างงานลูกจ้างได้จำนวนกว่า 5 ล้านคน

9142
หุ้นไทยภาคเช้าปิดบวก 7.33 จุด รับแรงซื้อหนุนหลังรัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 พ.ย.นี้ ตามเงื่อนไขฉีดวัคซีน จำกัดจำนวนประเทศ และราคาน้ำมันดิบโลกทรงตัวระดับสูงเหนือ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เคลื่อนไหวในแดนบวก รับแรงซื้อหนุนจากปัจจัยบวกหลังรัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว แต่มีเงื่อนไขการฉีดวัคซีนและจํากัดจํานวนประเทศ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกยังทรงตัวระดับสูงเหนือ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,640.77 จุด เพิ่มขึ้น 7.33 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.45% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55,071.80 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,646.85 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,637.49 จุด


หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

AOT ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,441.59 ล้านบาท

CPALL ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,454.11 ล้านบาท

TRUE ปิดที่ 4.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,012.04 ล้านบาท

KBANK ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,978.81 ล้านบาท

BANPU ปิดที่ 13.60 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,104.06 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่ดันดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

AOT ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มีผลต่อดัชนี 4.3304 จุด

CPALL ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มีผลต่อดัชนี 0.5835 จุด

KBANK ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มีผลต่อดัชนี 0.513 จุด

AWC ปิดที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท มีผลต่อดัชนี 0.4989 จุด

BDMS ปิดที่ 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มีผลต่อดัชนี 0.4129 จุด

9143
ออสซี่ออยล์

9144
งานนี้ไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแค่หาออร์เดอร์มาส่งเค้าทำ หรือ ซื้อเครื่องทำเองซะเลย ง่ายอย่างยิ่งๆ

9145
ยี่ห้อ Design Living Better
กระเบื้องยาง คุณภาพดี กันน้ำ กันUV ทนทานต่อแรงขีดข่วน ปลวกไม่กิน การยืดหดตัวน้อยกว่ากระเบื้องยางใช้ตกแต่งบ้าน ห้องนอน ร้านค้า ให้ความนุ่มเวลาเดินและสีสันเหมือนไม้จริง ง่ายต่อการทำความสะอาดเคลือบ UV สามารถโดยแดดได้ อายุการใช้งานยาวนาน อายุการใช้งาน 7 -10 ปี 

9148
คืนวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 1.94 แสนตำแหน่งต่ำกว่า Bloomberg คาดที่ 4.9 แสนตำแหน่ง พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 4.8% ดีกว่า Bloomberg คาดที่ 5.1% อย่างไรก็ตามแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาไม่ได้ร้อนแรงแต่พบ US 10Y Bond Yield ยังคงดีดตัวขึ้นต่อเนื่องและทำ New High อีกครั้ง บ่งบอกถึงความกังวลของตลาดเกี่ยวกับเงินเฟ้อ เชื่อว่าเกิดจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ราคาน้ำมัน BRT,WTI ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 4 ปี


สำหรับความเห็นเราต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบเชื่อว่าจะยังปรับตัวขึ้นได้ต่ออีกเล็กน้อยมองเป้าหมาย BRT 4Q21 90$ / BBL เนื่องจากปัจจุบันมีอุปสงค์ส่วนเกินจากการเปิดเมือง แต่เชื่อว่าช่วงถัดไปจะเริ่มเห็นกำลังการผลิตเข้ามา ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ BRT จาก Bloomberg Consensus ที่มองแนวโน้ม 4Q21 – 2Q22 จะแกว่งตัวในกรอบ 81$ / BBL – 77 $ / BBL ดังนั้นเชื่อว่าทิศทางของ US 10Y Bond Yield อาจมีจังหวะดีดตัวขึ้นบ้างตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น เป็นไปได้ที่ระยะสั้นภาพรวมการลงทุนอาจถูกกดดันจากการเร่งตัวของ US 10Y Bond Yield

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ (1) การรายงานเงินเฟ้อสหรัฐที่จะทราบผลในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมิน +0.3%MoM และ +5.3%YoY (2) PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต)คืนวันพฤหัสตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมิน +0.6%MoM และ +8.7%YoY (3) ยอดค้าปลีกสหรัฐคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมิน -0.3%MoM ดังนั้นสัปดาห์นี้ประเด็นเงินเฟ้อเป็นที่จับตาของตลาดทำให้เราประเมินว่า SET จะอยู่ในกรอบ 1625 – 1655

กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นหรือภายในสัปดาห์แนะนำ Theme ป้องกันเงินเฟ้อ อาทิ น้ำมัน (PTTEP) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) ปิโตรเคมี (PTTGC IVL) ส่วนระยะกลางยังแนะทยอยสะสม Domestic Play แต่ให้เน้น Laggard ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ร้านอาหาร (M) ศูนย์การค้า (CPN) สนามบิน (AOT) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 162 บาท) คาดกำไรสุทธิ 3Q21 ของ BBL จะอยู่ที่ 6.44พันล้านบาท (+60%YoY, +1.3%QoQ) จากการตั้งสำรองที่ลดลง ขณะเดียวกันคาดว่ากำไรก่อนการตั้งสำรองลดลง 22%QoQ (+35%YoY) จากการลดลงของรายได้มิใช่ดอกเบี้ย ตามการชะลอตัวเศรษฐกิจช่วง Lock Down อย่างไรก็ตามคาดผลการดำเนินงานจะกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่4Q21เป็นต้นไป จากการขยายสินเชื่อองค์กร รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การตั้งสำรองในปีหน้าลดลง

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146 บาท) คาดว่า PTTEP จะมีกำไรสุทธิเติบโตใน 3Q21 ที่ 10.1 พันล้านบาท (+40% YoY, +41% QoQ) การเพิ่มขึ้น YoY มาจากการเติบโตของปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่เพิ่มขึ้น +20% และ +13% ตามลำดับ ในขณะที่การเติบโต QoQ จะเกิดจากการขาดทุนที่ลดลงจากการป้องกันความเสี่ยงที่คาดไว้ใน 3Q21 ที่ 40ล้านเหรียญสหรัฐเทียบกับ 127ล้านเหรียญสหรัฐใน 2Q21

9150
งานนี้ไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแค่หาออร์เดอร์มาส่งเค้าทำ หรือ ซื้อเครื่องทำเองซะเลย ง่ายสุดๆๆ

หน้า: 1 ... 608 609 [610] 611 612 ... 952