ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด ล่าสุด WTI ยืนเหนือ $99, เบรนท์ทะลุ $104
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI ยืนเหนือระดับ 99 ดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุ 104 ดอลลาร์
ณ เวลา 21.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 5.45 ดอลลาร์ หรือ 5.78% สู่ระดับ 99.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) บวก 5.62 ดอลลาร์ หรือ 5.71% สู่ระดับ 104.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ หลังพบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เริ่มชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตือนว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่มีการบังคับใช้ในปัจจุบัน และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง และไม่มีทางที่จะทดแทนปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไป
นายบาร์คินโดกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว หลังจากที่เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป (EU) ได้เข้าพบตัวแทนจากโอเปกที่กรุงเวียนนาวานนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตของโอเปก
ทั้งนี้ โอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. แม้ว่าสหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 139 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
EU มีมติคว่ำบาตรการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียในไม่ช้า ตามการดำเนินการของสหรัฐ แคนาดา และออสเตรเลีย เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียโจมตียูเครน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากลดลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์
