͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: “บิวกิ้น” ลูกรัก “ย้ง ทรงยศ” จริงเหรอ?  (อ่าน 90 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Cindy700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15685
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


เผยชีวิต “บิวกิ้น พุฒิพงศ์” กับความสำเร็จที่ก้าวกระโดด จนตัวเองยังไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ยิ้ม “ย้ง ทรงยศ” รักมาก ขอบคุณ “พีพี กฤษฏ์” ที่ไม่เคยทิ้งกัน และอยู่ซัปพอร์ตจนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ส่วนภาพจุ๊บแก้มกันนั้นมีที่มาและอัปเดตอาการป่วยล่าสุดของ “คู่จิ้น”

จะว่าเป็นปีทองของผู้ชายที่ชื่อว่า “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” ก็ว่าได้ เพราะเพียงไม่กี่ปีที่เข้ามาโลดแล่นในวงการ เริ่มจากรับบทเป็นหมอใน “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” ต่อจากนั้นก็ปังปุริเย่ในซีรีส์วาย “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” จนก่อให้เกิดเป็นคู่จิ้นจนถูกลุ้นให้เป็นคู่จริงกับ “พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” แต่การเดินทางของผู้ชายคนนี้ พูดเลยว่างานละครก็ดี งานเพลงก็เด่น เพราะด้วยน้ำเสียงที่มีสไตล์ของตัวเองจึงทำให้แต่ละเพลงที่ปล่อยออกมาได้รับความนิยมและเสียงชื่นชมจนกวาดรางวัลเกือบทุกสถาบัน รวมไปถึงเพลงล่าสุด “i ไม่ o (ixo)” ที่ได้โปรเฟสชั่นแนลในวงการเพลงไม่ว่าจะเป็น เบล สุพล, โป โปษยะนุกูล, หนึ่ง อีทีซี รวมไปถึง “ย้ง ทรงยศ” ที่นั่งแท่นเป็น Executive Producer ในเพลงนี้อีกด้วย

“สำหรับเพลงล่าสุด i ไม่ o (ixo) คือเป็นเพลงที่ไม่เกี่ยวกับซีรีส์ แต่มันเป็นเพลงที่เผยความเป็นศิลปินเต็มตัว หลังจากเพลงล่าสุดคือกอดในใจ ตั้งแต่เราได้ไปเก็บประสบการณ์ เราได้ไปทำหลายๆ เพลงมา เพลงนี้เป็นตัวตนของเรา 100% ไม่ได้มีกรอบอะไรมาครอบไว้ จะเอาความเป็นตัวตนของเราไปอยู่เพลง เพราะผมเป็นคนชอบฟังเพลงโซล หรือซิตี้ป๊อป พอวันที่เราจะทำเพลงที่เป็นของเรา เราอยากจะเอารสนิยมของเราลงไปอยู่ในเพลงนี้ด้วย เราได้ลงมาทำเอง เรียนรู้งาน ตัดสินใจเกือบทั้งหมด เพลงนี้ยังส่งไปมิกซ์ที่ญี่ปุ่นเพราะสตูดิโอนี้พี่ๆ วงอีทีซีเคยใช้ และการส่งเพลงไปที่ญี่ปุ่น เพราะเพลงที่มันเป็นโซลซิตี้ป๊อป เพราะที่ญี่ปุ่นเขาขึ้นชื่อในแนวเพลงสไตล์นี้อยู่แล้ว

หลังจากได้ปล่อยเอ็มวีออกมา ฟีดแบ็กคือจริงๆ ผมว่าตั้งแต่สารตั้งต้นก่อนที่เราจะทำ พี่ๆ ในนาดาวมิวสิกเขาก็เห็นมุมการเป็นศิลปินของเราในมุมนี้มั้ง มุมที่ว่าอยากจะพาผมออกจากคอมฟอร์ตโซน พาไปเจอมุมอื่นๆ ซึ่งการทำเพลงเร็วมันเป็นเพลงสนุกแหละ ผมว่าเท่าที่คุย เขาก็แฮปปี้นะ การที่วันนี้เราออกมาลองทำสิ่งใหม่ มาค้นหาสิ่งใหม่ เหมือนเราสร้างมุมใหม่ๆ ของการเป็นศิลปินของเราครับ ผมแฮปปี้และพี่ย้งเขาก็รักผมมาก ผมเชื่อว่าเขารักผมมากเพราะเขาชอบแสดงออกแบบนั้นผ่านหลายๆ อย่างละกัน

และถามว่าถ้าเลือกได้อยากฟีเจอริ่งกับใคร อยากฟีเจอริ่งกับ บรูโน มาส์ (Bruno Mars) เพราะว่าชอบเพลงที่เป็นอัลบั้มใหม่เขามากๆ เลยครับ แต่ก็อยากฟีเจอริ่งกับเขา อัลบั้มล่าสุดเขาทำโซล หรือทำโซลที่ไม่ได้มีความเป็นโมเดิร์นโซล แต่มีความเป็นโมทาวน์ เขาทำให้มันดูไม่ได้เก่า มันมีวิธีการเล่นและร่วมสมัย ผมว่าเขาเก่งตรงที่เอาของเก่ามาทำให้มันไม่เก่า ผมว่าเขาเก่งมาก"

ขอบคุณ “พีพี” ที่คอยเคียงข้างและซัปพอร์ตในทุกช่วงชีวิต แย้มงานเพลงคู่กันในอนาคต
"ผมว่ามีนะในอนาคต แต่จริงๆ ช่วงนี้เราก็แยกกันทำนะ หมายถึงว่า พีพี ก็จะไปทำเพลงของเขาในฐานะศิลปินเดี่ยว ผมก็จะมาทำเพลงของผมในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่เราก็ยังรับงานด้วยกันอยู่ ถ้าร้องเพลงอีเวนต์ก็จะมีโอกาสได้เห็นอยู่บ้าง ถ้าทำเพลงใหม่ผมคิดว่ามีโอกาสนะ แต่ว่ามันขึ้นอยู่กับในอนาคตมันจะมีโปรเจกต์หรือว่ามีอะไรให้ได้ทำมากกว่า มีโอกาสครับ แต่ยังไม่รู้เมื่อไหร่

ซึ่งพีพีให้กำลังใจตลอด จริงๆ ผมกับพีพี เราให้กำลังใจและก็ซัปพอร์ตกันตลอด วันที่ผมก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินครั้งแรก และก็ร้องเพลงแรกพีพีเขาก็อยู่ข้างหลังซัปพอร์ตตลอด วันหนึ่งที่พีพีออกเพลงเดี่ยวเพลงแรก ผมก็แฮปปี้ ภูมิใจในตัวเขามาตลอดเหมือนกันครับ เราเรียนรู้และเราเติบโต สนับสนุนกันมาด้วยกันถ้าถามผม ขอบคุณอะไร ขอบคุณพีพีที่อยู่ด้วยกัน แล้วก็ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเรียนรู้ เดินทางมาด้วยกันตลอดครับ และขอบคุณที่ช่วยโปรโมตเพลงนี้ ซึ่งผมว่าเขาทำอยู่แล้วล่ะ เราเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันครับ

ส่วนความสำเร็จจากซีรีส์ที่เราสองคนได้เล่นด้วยกัน สำหรับพีพีเราคุยกันตลอด บอกกันตลอด ผมว่าไม่ใช่แค่ซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ ตั้งแต่หลายๆ ปีที่ผ่านมาเราเข้ามาสู่การทำสิ่งนี้ด้วยกัน เราค่อยๆ ก้าวหน้า ค่อยๆ เติบโต และค่อยๆ ประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน เหมือนเดินทางไปพร้อมๆ กันตลอด ไม่มีใครทิ้งใคร หนึ่งคือเราอาจจะไม่ทิ้งกัน สองคือจังหวะอะไรต่างๆ เลยทำให้เราเดินทางร่วมกันมาตลอด ผมว่ามันพิเศษมาก ขอบคุณพีพีที่ยังอยู่ด้วยกันเป็นกำลังใจและเป็นเหมือนคนในครอบครัวที่เราซัปพอร์ตกันมาตลอด ผมว่าถ้าไม่มีพีพีผมคงไม่สามารถเดินมาถึงตรงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพขนาดนี้

สำหรับแฟนคลับ ขอบคุณครับ จริงๆ แล้วผมว่าผมเป็นคนโชคดีนะที่ในมุมของแฟนคลับ เราเกิดมาไม่เคยคิดว่าจะมีคนมาชื่นชอบในตัวเรา มาเชื่อในตัวเรา มาให้คุณค่ากับตัวเรา มารักในสิ่งที่เราเป็น รักในสิ่งที่เราทำ ผมว่าผมโชคดีที่มีคนชื่นชมในสิ่งนั้นๆ ขอบคุณที่ทุกๆ คนในคุณค่ากับสิ่งที่เรากำลังทำและกำลังเป็น ผมจะเต็มที่ จะสร้างความสุข เป็นความสุขของทุกๆ คนต่อไป ผมอยากจะบอกว่าทุกๆ คนก็เป็นความสุขของผมที่ผลักให้ผมทำงานและเดินไปข้างหน้าต่อ ผมเชื่อว่าทุกๆคนซัปพอร์ตด้วยความรู้สึกที่ดี ด้วยความรัก ผมก็รักแฟนคลับทุกคนเหมือนกัน ถ้าเราทำอะไรให้ได้ ช่วยอะไรได้ก็จะเต็มที่ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมา ผมคิดว่าในอนาคตเราก็จะหาสิ่งที่ดีให้กันและกันตลอดครับ”

สำเร็จที่มาเร็วจนเกินคาด! จนไม่คิดว่าชีวิตจะมีวันนี้
“เราว่าได้เห็นตลอดนะ หมายความว่ามันอาจจะเป็นเพราะว่าผมมีการเดินทางที่เร็ว สำหรับผมนะครับตั้งแต่เริ่มทำจนมาถึงจุดนี้ ผมว่ามันเร็วมาก มันเลยทำให้เราเห็นความต่างของแต่ละจุดที่เราเดินทางตั้งแต่เราไม่เคยได้ทำอะไรเลย จนมาเริ่มได้ทำงาน โฆษณา ทำรายการ เป็นพิธีกร หรือว่าข้ามมาเล่น รักฉุดใจฯ พอออนแอร์ก็ประสบความสำเร็จ ต่อยอดมาให้เราได้มีงานต่อ ต่อยอดมาถึงการได้ร้องเพลง มาเล่น แปลรักฯ เสริมความเป็นนักแสดง เสริมความเป็นนักร้อง มาต่อที่ แปลรักฯ ภาค2 ที่ทำให้เราได้มีโอกาสไปขึ้นคอนเสิร์ตแฟนโทเปีย ได้มีแฟนคลับต่างประเทศ ผมว่ามันก็จะมีขั้นตอนของมัน เราพูดถึงประเด็นไหน เราก็จะเห็นว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน มันค่อยๆ พัฒนามายังไง อย่างที่บอกครับสำหรับผมมันเกินกว่าที่เราคิดไว้มาก พัฒนาการและสิ่งที่เราเดินทางผ่านมา พอมองย้อนไปมันพิเศษและมันก็ไม่เคยคิดคิดว่าจะมีโอกาสแบบนี้ ขอบคุณทุกคนครับ

เพราะปกติผมเป็นคนจริงจังมั้งครับ (ยิ้ม) ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าจริงจังหรือเปล่า เหมือนว่าเวลาเราทำอะไรไม่สำเร็จมันจะติดอยู่ในใจ ก็จริงจังแหละครับ เป็นคนชอบเอาชนะตัวเองนิดนึง ชอบความท้าทาย ชอบเห็นพัฒนาการของตัวเอง ชอบทำให้สำเร็จ (อีก 5 ปีต่อไปบิวกิ้นจะเป็นยังไง?) ผมว่าก็น่าจะทำนะครับ อย่างงานแสดงผมจะทำเฉพาะที่ผมรู้สึกอิน คืองานแสดงผมว่ามันคือความเชื่อเราไปอ่านบท ไปเจอผู้กำกับ เจอทีมงาน แล้วเราไม่เชื่อ จะไม่มีทางทำมันออกมาด้วยจิตวิญญาณ ผมว่าสิ่งสำคัญคือเราต้องเชื่องานนั้นก่อน ถ้าเชื่อเราจะอยากทำและทำออกมาให้ดีเอง

สำหรับงานแสดงตราบใดที่ยังเจองานที่ดี ผมว่าทำได้เรื่อยๆ ส่วนงานเพลงก็คิดว่าจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ทำเพลงใหม่ๆ ผมว่าอีก 5 ปี ก็ยังไม่หมดมุกหรอก ก็ยังมีแนวเพลงให้ทำอีกเยอะ คิดว่าถ้ายังสนุกและยังอยากพัฒนาตัวเองในด้านนี้อยู่ คิดว่าก็ยังคงทำต่อ และก็มีแพลนว่าอาจจะไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ก็ยังดูๆ อยู่ ยังไม่ได้วางแผนชัดเจนว่าจะไปเรียนตอนไหนคณะไหน หรือประเทศไหน แต่ก็น่าจะต้องไปวันใดวันหนึ่ง ช้าหรือเร็ว สำหรับวันนี้นะๆ ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนใจแล้ว ผมว่าหลักๆ เราอยากจะมีความสุขมากกว่า มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ ผมว่าทุกอย่างๆ มันผลักดันด้วยแพชชั่น อีก 5 ปี เรายังผลักตัวเองด้วยแพชชั่น ผลักตัวเองด้วยความสุขอยู่ ความสุขมันคือสิ่งที่นำการกระทำ อาจจะทำธุรกิจไปด้วยครับ”

ที่มาของภาพ “บิวกิ้น” หอมแก้ม “พีพี” จนแฟนๆ กรี๊ดลั่นติดเทรนด์ทวิตเตอร์
“วันนั้นก็เป็นแพลนโปรโมตนาดาว มิวสิค ที่ผมไปเป็นแอดมินทวิตเตอร์ แล้วผมก็เป็นคนที่เล่นทวิตเตอร์ไม่ค่อยเป็น ก็เลยเหมือนตะกุกตะกักบ้าง แล้วเหมือนพีพีก็มาเล่นกับผม มาช่วยเราโปรโมตเพลง เขาก็น่ารัก แล้วเหมือนช่วงที่เขามาพิมพ์ ก็เหมือนพิมพ์ตอบตอนที่เรากำลังเรียนเต้นอยู่เราเลยไม่ได้เห็น เขาเห็นเหมือนเราไม่ตอบเลยอารมณ์ไหนไม่รู้ก็เลยปล่อยรูปนั้นออกมา

ซึ่งจริงๆ รูปนั้นเป็นรูปที่เหมือนพีพีบอกผมว่าแกล้งจุ๊บหน่อยจะถ่ายให้พี่คนนึงที่เขาชอบจิ้นๆ ให้อยู่ด้วยกัน ลองไปหาดูกันครับ (หัวเราะ) พีพีเลยเอารูปนั้นมาโพสต์แกล้ง ก็กลายเป็นไวรัลใหญ่เลย (ถ้าไม่ตอบกลับว่า อิอิ จะตอบว่าอะไร?) ก็จะตอบว่า ครับ เพราะเราก็ตอบรับ รับรู้ว่าเราเห็นแล้วนะ แล้วก็เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนแคปชั่น จูบุ๊ จูบิ๊ อิอิ จริงๆ ไม่มีความหมาย ไม่มีอะไรเลยครับ มันเป็นแค่เรารู้สึกอะไรเราก็พิมพ์ เราก็เพ้อเจ้อๆ ไป ไม่ได้มีความหมายหรืออะไรทั้งนั้น ผมว่าพีพีก็พอๆ กันนะ ถ้ามีอะไรแบบนี้อย่าไปคาดหวังเหตุผล บางทีมันเป็นอีโมชั่นนอล แต่นานๆ ทีนะ ของผมจะเป็นเหตุผลมากกว่าซะส่วนใหญ่

ซึ่งอาการของพีพี คือพีพีจริงๆ ต้องผ่าทอนซิล เป็นนิ่วในทอนซิล จริงๆ ผมก็เห็นเขาพูดมาสักพักแล้วว่าเขามีปัญหาเวลาเขาร้องเพลง เขาบอกพูดปกติได้แต่เวลาร้องเพลงที่ต้องใช้เส้นเสียงเยอะๆ เขาจะเจ็บคออะไรแบบนี้ ก็บอกเขาว่าสู้ๆ ครับ แล้วเดี๋ยวเราก็จะรอวันที่เขากลับขึ้นมาร้องเพลงบนเวที วันที่เขามาทำเพลงใหม่ ก็เขายังดี๊ด๊าอยู่เป็นปกติเลย ยังไม่รู้ว่าจะให้กำลังใจ ไม่เห็นจะต้องการกำลังใจอะไร ยังแฮปปี้ชีวิตมีความสุขอยู่ยังด๊องแด๊งๆ อยู่"